ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ ทุกเจเนอเรชั่น ได้รับการพัฒนาเพื่อรถครอบครัวโดยแท้ ล่าสุดนี้ เป็นเจเนอเรชั่นที่ 5 ซึ่งมีความแปลกใหม่ พลิกประวัติศาสตร์ของ ฮอนด้า เป็นอย่างมาก ที่ฮอนด้าทำซีอาร์-วี ให้เป็นรถเอนกประสงค์แบบ 2 เครื่องยนต์ คือ เครื่องยนต์เบนซิน และเครื่องยนต์ดีเซล
ความลงตัวอยู่ที่ เครื่องยนต์เบนซิน เงียบ สะอาด และแรง ส่วนเครื่องยนต์ดีเซล เน้นที่ความประหยัด ขับง่าย และแรงบิดสูง ด้วยคำว่า ฮอนด้า ซีอาร์-วี เป็นเสมือนตัวแทนรถ เอสยูวี ของ ฮอนด้า ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ถึงแม้จะมี SUV อย่างเจ้า HRV ที่ขายดิบขายดี มาร่วมตลาดด้วยก็ตาม แต่ ซีอาร์วี ยังเป็นที่นิยมของคนทุกชนชั้นอยู่เช่นเดิม
ในภาษาญี่ปุ่นคำว่า SHU-HA-RI คือ SHU แปลว่าปกป้องและรักษาเอาไว้ ส่วนคำว่า HA แปลว่า ข้ามผ่าน คือ ข้ามผ่านการฝึกฝน และRI แปลว่า เหนือกว่าตำแหน่งปัจจุบัน ทั้งหมดทั้งมวลนี้ ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ เจเนอเรชั่นที่ 5 คือ การพัฒนาให้ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ เป็นรถยนต์ที่จะมาสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดเอสยูวีอีกครั้ง
ดีไซน์ภายนอก มาพร้อมภาพลักษณ์ที่โดดเด่นด้วยความแข็งแรงและปราดเปรียว ความหรูหราล้ำสมัยในทุกสัมผัส มีพวกฟังก์ชั่นและอุปกรณ์การใช้งานอันล้ำสมัย สอดคล้องกับหลักอากาศพลศาสตร์ โอเวอร์แฮงค์ด้านหลังสั้นลง และเพิ่มระดับความสูงของพื้นที่ใต้ท้องรถ อีกทั้งการออกแบบซุ้มล้อให้มีความสปอร์ต ขยายระยะฐานล้อให้ยาวขึ้น เพื่อมอบความกว้างขวางของพื้นที่เบาะหลังและสมรรถนะการขับเคลื่อน ไฟหน้าและไฟท้ายใหม่แบบ LED ซึ่งมี Daytime Running Light – DRL หรือไฟส่องสว่างยามกลางวัน เพิ่มจุดสังเกตให้เกิดความปลอดภัยมากขึ้น เป็นรถ 3 ตอนที่ดูโปร่ง โล่ง สบาย ทั้งกระจกบังลม กระจกมองข้าง มือจับประตู
หลักคิดการออกแบบภายใน เพื่อให้ห้องโดยสารมาพร้อมความหรูหรา กว้างขวาง และเปี่ยมด้วยประโยชน์ใช้สอยแล้ว ทางฮอนด้า ออกแบบให้ ซีอาร์-วี ถือเป็นรถยนต์สปอร์ตเอนกประสงค์ที่มีความโดดเด่นในเรื่องของพื้นที่ห้องโดยสารและพื้นที่ใช้สอย เบาะโดยสาร 3 แถว แบบ 7 ที่นั่ง เพื่อตอบสนองความต้องการ โดยสะท้อนความหรูหราผ่านเบาะหนังสีดำ แผงคอนโซลด้านหน้าขนาดใหญ่ที่ตกแต่งเส้นสายด้วยลายไม้และวัสดุสี Piano Black อีกทั้งครบครันด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกระดับพรีเมียม อาทิ ระบบเกียร์ไฟฟ้าที่ควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ด้วยสวิตช์ เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้าได้ 8 ทิศทาง พร้อมปุ่มปรับดันกระดูกสันหลังไฟฟ้า 4 ทิศทาง เพื่อป้องการความเมื่อยเมื่อเกิดการขับทางไกล ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ i-Dual Zone ระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารแถว 2 และ 3 อีกทั้งช่องเชื่อมต่อ USB ช่องเชื่อมต่อ HDMI และช่องจ่ายไฟสำรอง พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่น พร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียง และปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์
เทคโนโลยีอันล้ำสมัย เปี่ยมสมรรถนะกับเครื่องยนต์เบนซิน และเครื่องยนต์ดีเซล แต่มาว่ากันถึงเครื่องยนต์เบนซิน ที่ได้รับการยอมรับมาเนิ่นนาน เครื่องยนต์ขนาด 2.4 ลิตร i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว ที่พัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม ให้กำลังสูงสุด 173 แรงม้า ที่ 6,200 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุดที่ 224 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที ผสานการทำงานกับเกียร์อัตโนมัติ CVT เพื่อการตอบสนองได้ดั่งใจ พร้อมรองรับพลังงานทางเลือก E85 ระบบเกียร์อัตโนมัติแปรผันต่อเนื่อง CVT ส่งผ่านกำลังด้วยอัตราทดเกียร์ที่เหมาะสม ให้อัตราเร่งที่ดี ขับเคลื่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพในช่วงรอบต่ำ โดยระบบจะทำการกำหนดอัตราทดเกียร์ในแต่ละช่วงไว้อย่างเหมาะสมและเลือกอัตราทดอย่างแม่นยำเพื่อการขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับการเหยียบคันเร่งและสภาพการขับขี่ ในชุดเกียร์มีจะคลัทช์สำหรับระบบเกียร์อัตโนมัติ (Torque Converter) ที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ ทำหน้าที่ขับเคลื่อนพูเลย์ เพื่อทำให้การทำงานของเกียร์และอัตราทดเกียร์เป็นไปอย่างเหมาะสม นอกจากนี้ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ E-DPS ของ ฮอนด้า จะทำงานโดยเปลี่ยนการควบคุมการส่งกำลังไปยังล้อหลังด้วยระบบไฟฟ้า ตอบสนองการทำงานได้รวดเร็วพร้อมกับให้แรงบิดที่ล้อหลังสูงขึ้น อีกทั้งเพิ่มความแม่นยำของการปรับแรงบิดที่ล้อหน้าและล้อหลังให้สมดุล
ส่วนถ้าเอาประหยัด เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 1.6 ลิตร i-DTEC DIESEL TURBO 4 สูบ ขนาด 1.6 ลิตร ได้รับการพัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม (Earth Dreams Technology) ให้กำลังสูงสุด 160 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที ด้วยแรงบิดสูงสุดที่ 350 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 รอบต่อนาที ซึ่งเทียบเท่ากับเครื่องยนต์ดีเซลขนาดใหญ่ ผสานการทำงาน กับระบบเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด ให้ทั้งอัตราเร่งและอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมสูงถึง 18.9 กิโลเมตร/ลิตร อีกทั้งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอัตราที่ต่ำเพียง 141 กรัม/กิโลเมตร เครื่องยนต์ i-DTEC DIESEL TURBO มีหลักสำคัญในการทำงาน คือ มีระบบเทอร์โบชาร์จเจอร์ 2 จังหวะ ผสานการทำงานอย่างชาญฉลาด ด้วยการควบคุมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่รวดเร็วและแม่นยำเพื่อให้การตอบสนองทั้งกำลังแรงบิดและอัตราเร่งได้อย่างเต็มประสิทธิภาพในทุกการขับขี่ ประกอบด้วยเทอร์โบชาร์จเจอร์ที่ทำงานในช่วงแรงดันสูง และเทอร์โบชาร์จเจอร์ที่ทำงานในช่วงแรงดันต่ำ โดยจะทำงานร่วมกันตั้งแต่รอบเครื่องยนต์ต่ำไปจนถึงสูง
ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ ได้รับการปรับปรุงแชสซีส์ เพื่อความคล่องตัวในการขับขี่และความมั่นใจในทุกการควบคุม ซึ่งช่วยเพิ่มความสูงจากใต้ท้องรถและพื้นที่ใช้สอยเพื่อความอเนกประสงค์อีกด้วย ความกว้างช่วงล้อหน้า-หลัง ประกอบกับการใช้ระบบกันสะเทือนหน้าแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท และด้านหลังแบบมัลติลิงค์ที่มีการปรับแต่งเป็นพิเศษด้วยชุดโช้คอัพที่มีแรงเสียดทานต่ำ และเหล็กกันโคลงด้านหน้า-หลัง จะช่วยให้รถยนต์สามารถเข้าโค้งได้ดีมากขึ้น ระบบกันสะเทือนหน้าแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท แขนยึดตัวล่างในระบบกันสะเทือนหน้าจะเชื่อมต่อเข้ากับซับเฟรมและตัวถังผ่านทางบุชยางที่มีการบรรจุของเหลวเอาไว้ข้างใน ส่วนช่วงล่างด้านหลัง เป็นระบบกันสะเทือนหลังได้รับการออกแบบมาเพื่อความคล่องตัวและการทรงตัวที่ดีในทุกการขับขี่ เทรลลิงอาร์มจะติดตั้งอยู่บนโครงสร้างตัวถังแบบ Unibody และใช้บุชยางที่มีการบรรจุของเหลวเป็นตัวยึด เพื่อประสิทธิภาพในการควบคุมเสียง แรงสั่นสะเทือน และแรงกระชาก
อื่นๆ ก็น่าจะเป็น ระบบพวงมาลัยแบบ EPS ระบบพวงมาลัยแบบ Dual พิเนียนพร้อมเพาเวอร์ผ่อนแรงแบบไฟฟ้า EPS ประกอบด้วยชุดเฟืองพิเนียนแบบ Dual และได้มีการปรับอัตราทดเฟืองให้แปรผันได้ตามช่วงความเร็วที่เหมาะสม ช่วยเพิ่มความคล่องตัวในช่วงความเร็วต่ำ และให้การทรงตัวที่ดีในช่วงความเร็วสูง เปรียบเทียบกับระบบแบบเดิมที่ใช้เฟืองเพียงแค่ตัวเดียว ตัวระบบ Dual Pinion จะใช้ข้อมูลที่ถูกส่งจากผู้ขับขี่หรือมอเตอร์ไฟฟ้าในการทำงาน ตัวเซ็นเซอร์รับแรงบิดที่ไม่ได้มีการเชื่อมต่อจะจัดการวัดระดับในการหมุนพวงมาลัยที่ผู้ขับกำลังทำอยู่ และตัว ECU จะตัดสินการทำงานว่ามอเตอร์ไฟฟ้าจะต้องทำงานระดับไหน ลดเสียง แรงสั่นสะเทือน และความกระด้าง NVH
อย่างไรก็ตาม เบาะนั่ง ซีอาร์วี ดีไซน์ใหม่ที่รองรับผู้โดยสารได้ถึง 7 ที่นั่ง มาพร้อมประตูข้างด้านหลัง ที่เปิดได้กว้างถึง 88 องศา มอบความสะดวกสบายในการเข้าออกของผู้โดยสาร โดยเบาะนั่งสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานได้ตามต้องการ ฮอนด้า ซีอาร์-วี มีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่น และมีราคาเริ่มจากตัวท็อป DT-EL 4WDราคา 1,699,000 บาท ตัวรองลงมาเป็นรุ่น DT-Eราคา 1,549,000 บาท ตัว 2.4 EL 4WDราคา 1,549,000 บาท และสุดท้ายรุ่น 2.4 E สนนราคาอยู่ที่ไม่เกิน 1,399,000 บาท…น่ะ